Month: December 2020
ต้นแคคตัสหางลิง
ต้นแคคตัสหางลิง เหมาะสำหรับ
- ปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งบ้าน
- ปลูกเป็นไม้กระถางตั้งโต๊ะ หรือตกแต่งเพื่อความสวยงาม
- ช่วยฟอกอากาศ ดูดซับสารพิษในอากาศ
- เป็นไม้มงคลเสริมบารมี ช่วยให้กิจการก้าวหน้า
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นแคคตัสหางลิง
แคคตัสหางลิง หรือ Monkey’s tail cactus เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์แคคตัสที่หายากในเมืองไทย เป็นแคคตัสแบบไม้เลื้อย ลักษณะเด่นจะมีรูปร่างคล้ายหางลิง ขนหางจะขาวฟูสวยงาม ออกดอกสีส้มเหลือบ ๆ แดง ดอกมีหลายกลีบแฉก สีดอกสดสวยงาม การขยายพันธุ์แคคตัสหางลิง ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการแยกหน่อ ปักชำ หรือขยายพันธุ์ ด้วยการกราฟต์บนตอสามเหลี่ยม จะสามารถเพิ่มจำนวนได้ในเวลารวดเร็ว
วิธีการดูแล
• ดูแลรดน้ำวันละ 1 ครั้ง คอยดูแลหน้าดินอย่าให้ชุ่มน้ำมากเกินไป ป้องกันรากเน่า
• ชอบแสงแดดจัด ๆ ยิ่งแสงแดดจัดจะช่วยให้แคคตัสหางลิงขนฟูขาวสวยงามมากยิ่งขึ้น
• ผสมดินร่วนซุยที่มีธาตุอาหาร กาบมะพร้าว แกลบ ถ่าน หรือผสมหินกรวดลงไป เพื่อไม่ให้ดินจับตัวหนาแน่น โปร่งและระบายน้ำได้ดี
• ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยออสโมโค้ท หรือปุ๋ยละลายช้าปริมาณเล็กน้อย ทุก 3-6 เดือน
ต้นตีนตุ๊กแกด่าง
ต้นตีนตุ๊กแกด่าง เหมาะสำหรับ
- เป็นไม้เลื้อย สำหรับปลูกประดับ ตกแต่งสวยงาม ปลูกเลื้อยตามกำแพง หรือไม้ระแนง
- เป็นไม้ฟอกอากาศ ช่วยให้หายใจโล่งสบาย ช่วยลดอุณหภูมิ
- ช่วยดูดซับมลพิษก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และสารในอากาศประเภทเบนซิน ที่เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
- เป็นไม้ชื่อเป็นสิริมงคลนิยมปลูกเรียกทรัพย์
- สรรพคุณเป็นยา นำใบมาบดละเอียด ใช้ทาพอกเพื่อรักษาแผล หรือฝี หรือพอกเพื่อแก้ปวด แก้อักเสบตามข้อ
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นตีนตุ๊กแกด่าง
เป็นไม้เลื้อยลำต้นเป็นเถา แตกกิ่งก้านหนาแน่น ทอดเลื้อยได้ยาว 3 ถึง 5 เมตร โดยมีรากขนาดเล็กแตกออกมาตามข้อ เพื่อดูดซึมแร่ธาตุอาหาร และยึดเกาะสิ่งต่าง ๆ ใบค่อนข้างสาก หนา สีเขียวเข้มสลับสีขาวอมเหลือง ใบเรียงสลับ ลักษณะใบเป็นรูปไข่หรือรูปคล้ายหัวใจ ปลายใบมน ขอบใบเป็นหยัก ออกดอกสีขาวแฉกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ กลีบเลี้ยงสีเขียวเชื่อมติดกันเป็นหลอด
ออกดอกได้ตลอดทั้งปี มีผลกลมเล็ก ๆ สีน้ำตาล สามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ๆ ด้วยการปักชำ
วิธีการดูแล
- รดน้ำปานกลาง หรือวันละ 1 ครั้ง หรือรดน้ำได้เมื่อดินแห้ง หรือฉีดละอองน้ำที่ใบ
- เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดครึ่งวัน
- ปลูกได้ในดินทั่วไป ที่มีแร่ธาตุอาหารสมบูรณ์
- ใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก
ต้นแอสโตรไฟตัม
ต้นแอสโตรไฟตัม เหมาะสำหรับ
• เป็นไม้ประดับสวน ตกแต่งบริเวณบ้านเพื่อความสวยงาม
• เป็นไม้ประดับกระถางตกแต่งโต๊ะทำงาน หรือมุมนั่งเล่นภายในบ้าน
• เป็นงานอดิเรก เพาะเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน
• เป็นต้นไม้ตามหลักฮวงจุ้ย เพาะเลี้ยงเพื่อรักษาสมดุลของธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นแอสโตรไฟตัม
แอสโตรไฟตัม จัดเป็นพืชอวบน้ำในตระกูลแคคตัส หรือกระบองเพชร Astrophytum เป็นแคคตัสไร้หนาม รูปทรงป้อมกลมคล้ายผลส้ม และมีลวดลายตามลำต้น ที่แตกต่างกันออกไป ลักษณะที่เด่นชัด คือ ลายจุดสีขาวที่กระจายอยู่ทั่วไปตามลำต้น รูปทรงคล้าย ๆ กลุ่มดาว มีปุยขนที่ปุ่มหนาม ผิวของลำต้นจะเขียวสวยงามคล้ายกำมะหยี่ มีชื่อเรียกเฉพาะตามลวดลายที่แตกต่างกันออกไป ออกดอกขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่สีเหลือง บานประมาณ 3 วัน สามารถขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ และผสมพันธุ์ระหว่างชนิดกันได้ง่าย
วิธีการดูแล
• ดูแลรดน้ำได้ตลอดเวลา โดยรดแล้วปล่อยจนผิวดินแห้งก่อนค่อยรดครั้งต่อไป ควรรดน้ำก่อนแดดออก
• ชอบแสงแดดจัด ช่วงก่อนเที่ยงและหลังบ่าย และมีอากาศถ่ายเทตลอดเวลา
• ควรปลูกในดินโปร่งและมีความหยาบ เพื่อไม่ให้ดินจับตัวกันมากเกินไป ป้องกันรากเน่า
• ใส่ปุ๋ยเกล็ด (หรือโพคอน) หรือปุ๋ยเม็ดออสโมโค้ต หรือธาตุอาหารฮอร์โมน B-1 ผสมน้ำรด
• เมื่อโตคับกระถาง ควรเปลี่ยนกระถางใหม่ แต่ไม่ควรใช้กระถางที่กว้างเกินไป
ต้นเดหลี
ต้นเดหลี เหมาะสำหรับ
- เป็นไม้ดอก ไม้ประดับ ตกแต่งเพื่อความสวยงาม
- เป็นไม้มงคลที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ปลูกมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว ช่วยปัดเป่าโรคภัย และนำโชคลาภวาสนา
- ช่วยฟอกอากาศ และดูดซับกลิ่นอับชื้นได้เป็นอย่างดี
- มีความสามารถดูดสารพิษในอากาศ จำพวกแอลกอฮอล์ อาซีโตน เบนซีน และฟอร์มาดีไฮด์ได้ดี
- เป็นดอกไม้ล่อแมลงวัน
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นเดหลี
เป็นเหง้าใต้ดินแล้วแตกหน่อขึ้นมาเป็นกอ เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ปลายใบแหลมสีเขียวเข้ม เป็นมันวาว ออกดอกเป็นช่อสีขาวสวยงาม โดยดอกเดหลีจะแทงก้านตรงยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร มีใบประดับ จานดอกลักษณะเป็นกาบ หรือจานรูปหัวใจ ดอกจะส่งกลิ่นหอมในช่วงเช้าถึงตอนสาย ๆ สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี เดหลีขยายพันธุ์ง่าย ๆ โดยวิธีแยกเหง้า หรือต้นอ่อนแล้วนำไปปลูกใหม่
วิธีการดูแล
- รดน้ำเป็นประจำทุกวัน เช้าและเย็น ให้หน้าดินชุ่ม
- ควรปลูกไว้ในที่ที่ไม่มีแสงแดดจัด ปลูกในที่ร่ม หรือวางไว้บริเวณที่มีแสงแดดรำไร
- ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำเร็ว ผสมกับขุยมะพร้าว หรือแกลบดำ
- ใส่ปุ๋ยคอก 2-3 เดือนต่อครั้ง หรือปุ๋ยสูตร 15-15-15 ปีละ 2 ครั้ง
ต้นซันโครีบูเทีย
ต้นซันโครีบูเทีย เหมาะสำหรับ
- เหมาะจะเป็นไม้ดอก ไม้ประดับ ตกแต่งโต๊ะทำงาน หรือตกแต่งห้องเพื่อความสวยงาม
- ตกแต่งสวนแนวใหม่ เช่น สวนหิน สวนแคคตัส
- เพาะเลี้ยงเป็นงานอดิเรก เพื่อความเพลิดเพลิน
- ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา และช่วยลดอาการเครียดได้เป็นอย่างดี
- คลอโรฟิลด์จากต้นซันโครีบูเทีย จะช่วยลดแสง และรังสีจากคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน เป็นการปกป้องถนอมสายตา
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นซันโครีบูเทีย
ลำต้นจะมีลักษณะทรงกลม เป็นสัน หนามมีลักษณะเป็นรูปหวี ไม่มีหนามตรงกลาง หนามเป็นสีทองสวยงาม ผลมีลักษณะทรงกลมผิวเรียบ จะออกดอกบริเวณโคนต้น โดยกลีบดอกจะเป็นผิวมัน ดอกมีทั้งแบบสีเดียว เช่น สีแดง สีม่วง สีเขียว และสีผสมหลายสี ขยายพันธุ์ด้วยการชำหน่อ ซันโครีบูเทียออกดอกเกือบตลอดทั้งปี
วิธีการดูแล
- สามารถรดน้ำได้ตามต้องการ หรือเมื่อเห็นว่าหน้าดินเริ่มแห้ง
- เป็นไม้ที่ชอบโดนแดดตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าถึงเย็น ทนแสงแดดได้ดีมาก
- ปลูกในดินใบก้ามปูหมัก หรือดินที่มีแร่ธาตุอาหารสมบูรณ์ จะโตเร็ว
- ใส่ปุ๋ยละลายช้า (ออสโมโค้ท )เป็นหลัก จะช่วยให้เจริญเติบโตได้ดีกว่าปุ๋ยชนิดอื่น
ต้นโอซาก้า
ต้นโอซาก้า เหมาะสำหรับ
• ปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งมุมสวน ตกแต่งบ้าน
• ช่วยฟอกอากาศ เพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศได้เป็นอย่างดี
• ช่วยกรองแสงแดด ช่วยทำให้บ้านเย็น
• เป็นต้นไม้โชคลาภ ยิ่งเลี้ยงให้อ้วน ยิ่งทำให้ร่ำรวย มีทรัพย์สินเงินทอง
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นโอซาก้า
เฟิร์นโอซาก้า หรือเฟิร์นรังนก Bird s Nest Fern มีใบวนรอบต้น หรือเหง้าเป็นวงกลม ใบชูขึ้นคล้าย ๆ รังนก เป็นไม้ชนิดใบเลี้ยงเดี่ยว ขอบใบหยักพลิ้วเป็นเกลียวคลื่นสวยงาม เส้นหลักของใบ หรือเส้นก้านใบ จะไล่เฉดสีตั้งแต่สีเขียว ไปจนถึงสีน้ำตาล ขึ้นอยู่กับอายุของแต่ละใบ ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ โดยนำไปเพาะในดินฉ่ำ ๆ หรือในวัสดุเพาะปลูก ที่มีความชื้นสูง เช่น พีทมอส
วิธีการดูแล
• ดูแลรดน้ำให้ชุ่มวันละ 1-2 ครั้ง พ่นน้ำเลี้ยงใบบ่อย ๆ
• ชอบอากาศเย็น แสงแดดรำไร หรือในที่ร่มโดนแสงแดดอ่อน ๆ พอประมาณ ระวังโดนแดดมากเกินไป
• ชอบดินผสมกาบมะพร้าว ขุยมะพร้าว ถ่าน หรือใบไม้ผุ แต่ต้องคอยดูแล อย่าให้ฉ่ำน้ำมากไป รากจะเน่าได้ง่าย
• ใส่ปุ๋ยคอก หรือจุลินทรีย์
ต้นช้อนทอง
ต้นช้อนทอง เหมาะสำหรับ
- เป็นไม้ดอกดกหนา สำหรับไม้ประดับ ปลูกลงดินตามทางเดิน ตกแต่งสวนหย่อม
- เป็นไม้กระถางตกแต่งบ้านเพื่อความสวยงาม
- เป็นไม้ชื่อเป็นสิริมงคลนิยมปลูกเรียกทรัพย์
- สรรพคุณเป็นยา ต้นและใบต้มดื่มเพื่อบำรุงธาตุ แก้จุกเสียด รากต้มคั้นเคี่ยวน้ำ ดื่มเป็นยาขับลม ใบสด เคี้ยวเพื่อขับเสมหะ เจริญอาหาร
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นช้อนทอง
เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง ในตระกูล Rubiaceae ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านต่ำ เปลือกลำต้นสีน้ำตาล ใบเดี่ยวสีเขียวสด แนวเส้นใบเป็นร่อง ลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปทรงรี ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ออกเป็นช่อสีเหลืองแฉก 5 กลีบ ที่บริเวณปลายกิ่ง โคนกลีบเชื่อมต่อกัน โตเต็มที่สูงประมาณ 2 เมตร ช้อนทองออกดอกดก คราวละมาก ๆ และสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์ได้ง่าย ด้วยการปักชำกิ่ง
วิธีการดูแล
- รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หากแสงแดดไม่จัดให้รดน้ำแบบวันเว้นวัน
- เป็นไม้ที่ชอบแสงแดด ทั้งแบบเต็มวันและครึ่งวัน
- ปลูกได้ในดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี
- ใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ต้นโอบาเกะ
ต้นโอบาเกะ เหมาะสำหรับ
• ช่วยดูดซับสารพิษ มลพิษต่าง ๆ ในอากาศ กรองอากาศ และช่วยปรับสมดุลบรรยากาศ
• ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ คายน้ำ และคายออกซิเจนในเวลากลางคืน ช่วยให้นอนหลับสบาย
• ปลูกเป็นไม้กระถางบนโต๊ะทำงาน ตั้งหน้าบ้าน ปลูกตกแต่งสวน เพื่อความสวยงาม
• เป็นต้นไม้โชคลาภ ยิ่งเลี้ยงให้อ้วน ยิ่งทำให้ร่ำรวย มีทรัพย์สินเงินทอง
• สามารถนำเส้นใยไปใช้ผลิตเชือก และสิ่งทอได้
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นโอบาเกะ
บอลเซล โอบาเกะ ลักษณะลำต้นเป็นแท่งกลมยาว แตกหน่อลำต้นแทงขึ้นมาจากใต้ดิน รูปร่างลักษณะคล้ายงาช้าง ปลายใบแหลม มีร่องยาวจากโคนถึงปลายใบ ลำต้นตั้งตรง ออกดอกสีขาวทรงกรวย ออกดอกเป็นช่อ กลีบดอกมี 6 กลีบ เมื่อโตเต็มที่สูงประมาณ 1-2 ฟุต ขยายพันธุ์ง่ายด้วยการแยกหน่อ หรือปักชำต้นใหม่
วิธีการดูแล
• ดูแลรดน้ำให้ชุ่มอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ระวังอย่าให้น้ำขัง ป้องกันรากเน่า
• เลี้ยงในห้องแอร์ได้โดยไม่ต้องการแสงแดด แต่ควรนำไปรับแสงแดดด้วย อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
• ชอบดินโปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำได้เร็ว
• ใส่ปุ๋ยเกล็ด หรือปุ๋ยเม็ดออสโมโค้ต
ต้นช้อนเงิน
ต้นช้อนเงิน เหมาะสำหรับ
- เป็นไม้ประดับ ปลูกลงดิน ตกแต่งสวนหย่อม บริเวณรอบ ๆ บ้าน
- เป็นไม้ที่ตัดแต่งพุ่ม สามารถตัดเป็นรูปทรงได้ตามต้องการ
- เป็นไม้กระถางตกแต่งห้องเพื่อความสวยงาม
- เป็นไม้มงคล ปลูกเรียกทรัพย์ เงินทองไหลมาเทมา การค้ารุ่งเรือง
- เป็นของชำร่วยต้นไม้ ที่นิยมให้เป็นของขวัญ
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นช้อนเงิน
เป็นไม้พุ่มยืนต้น ลำต้นตั้งตรง เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาล ใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม มีขนาดเล็กและเป็นมัน ปลายใบมน โคนใบมน ขอบใบเรียบ ลักษณะของใบจะงุ้มเข้ามาคล้าย ๆ ช้อน รูปทรงของช้อนเงินใกล้เคียงกับไทรญี่ปุ่น แต่พุ่มจะดกหนาและใบแน่นกว่า เป็นไม้ทนทาน เลี้ยงง่าย แต่จะโตช้า ขยายพันธุ์ด้วยการเสียบยอด ทำให้ลำต้นไม่เติบโตมาก แต่กิ่งก้านและใบจะแผ่ขยายได้มากกว่า ออกผลเดี่ยวสีม่วงแกมแดง
วิธีการดูแล
- รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หากแสงแดดไม่จัดให้รดน้ำแบบวันเว้นวัน
- เป็นไม้ที่ชอบแสงแดด หากโดนแดดใบจะเป็นมันวาวกว่าปลูกในที่ร่ม
- ปลูกได้ในดินทั่วไป ที่มีแร่ธาตุอาหารสมบูรณ์
- ใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ต้นเงินหนา
ต้นเงินหนา เหมาะสำหรับ
- เป็นไม้ประดับสวน ตกแต่งบริเวณบ้านเพื่อความสวยงาม
- เป็นไม้ประดับกระถางตกแต่งโต๊ะทำงาน หรือภายในบ้าน
- เป็นของฝากต้นไม้ที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นไม้มงคล นำโชคลาภ สร้างเสริมบารมี ค้าขายร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นเงินหนา
เรียกกันอีกอย่างว่าเศรษฐีเงินหนา เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี ต้นเป็นกอ ทรงพุ่มแผ่กว้าง เมื่อโตเต็มที่จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 50–60 เซนติเมตร เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว แผ่นใบค่อนข้างหนา ทรงใบคล้ายรูปไข่ ปลายใบแหลมมน ออกดอกเป็นช่อตามซอกกาบใบ ปลีดอกเรียวยาว ก้านช่อดอกกลม ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร
วิธีการดูแล
- ดูแลรดน้ำ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ควรรดที่โคนต้นเป็นหลัก และระวังอย่าให้น้ำขัง
- ชอบแสงแดดช่วงเช้าหรือเย็น ไม่ชอบแดดจัดมาก ควรให้โดนแสงแดดอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- ควรปลูกในดินที่เก็บกักความชื้นได้ดี แต่มีลักษณะร่วนซุย เนื้อดินโปร่งเพื่อจะได้ระบายน้ำได้ดี
- ควรใส่ปุ๋ย หรือธาตุอาหารเดือนละครั้ง โดยผสมกับกาบมะพร้าวสับแล้วพรวนลงดิน หรือใช้ปุ๋ยแบบละลายน้ำก็ได้
- ต้องคอยดูแลหากใบเริ่มเหลือง ให้รีบเปลี่ยนดินใหม่