Author Archives: Gardencupid
ต้นไทรใบสัก
ต้นไทรใบสัก เหมาะสำหรับ
- มักชอบนำไปปลูกเป็นไม้ประดับสวน ประดับในอาคาร และปลูกในกระถาง
- ตกแต่งพื้นที่ภายในบ้านตามมุมต่าง ๆ รวมไปถึงสวนให้ดูเขียวสดชื่นทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา
- เป็นหนึ่งในต้นไม้ฟอกอากาศ
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นไทรใบสัก
ลักษณะเป็นไม้พุ่ม ลำต้นมีสีน้ำตาลปนเทาซึ่งมีหูใบหุ้มยอด สำหรับใบจะเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปร่างรีไปจนถึงกลม ปลายติ่งหนามสั้นแต่โคนรูปหัวใจ แผ่นใบสีเขียว หนา และมันวาวทั่วทั้งแผ่นใบ
วิธีการดูแล
- หากปลูกไว้นอกบ้านสามารถให้โดนแสงแดดได้ในระดับปกติ หากปลูกไว้ในบ้านแนะนำให้โดนแสงแดดประมาณ 3-5 ชั่วโมงต่อวัน
- ไม่ควรรดน้ำบ่อยเพราะจะทำให้ต้นไม้ตายง่าย ควรรดน้ำอย่างน้อย 3 – 4 วันต่อครั้ง
- เน้นปลูกลงในดินที่ระบายน้ำได้ดี และไม่มีน้ำขัง
ต้นไซคลาเมน
ต้นไซคลาเมน เหมาะสำหรับ
- ปลูกเป็นไม้ประดับลงดิน หรือลงในสวนหิน
- ปลูกลงในกระถางสำหรับตกแต่งห้องนอน หรือห้องทำงานสไตล์มินินมอล
- ด้วยสีสันที่สวยงาม และแปลกตาทำให้กลายเป็นที่ชื่นชอบ และสามารถนำไปเพาะจำหน่ายเป็นรายได้เสริมอีกช่องทาง
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นไซคลาเมน
ลักษณะเป็นไม้ดอกอายุหลายปีซึ่งมีพุ่มสูงประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร มีหัวใต้ดินขนาดใหญ่รูปทรงกลมแบน สำหรับใบจะมีลักษณะเป็นรูปไข่ แผ่นใบหนา ขอบหยักถี่ มีลายทั้งก้านใบก้านดอกสีม่วงอมแดง ออกดอกเดี่ยว กลีบดอกมีหลายสี เช่น ขาว ชมพู แดง และม่วงซึ่งให้กลิ่นหอม รวมไปถึงยังให้ผล และมีเมล็ดภายใน
วิธีการดูแล
- สามารถขยายพันธุ์ด้วยการนำหัวไปปลูกในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ และระบายน้ำได้ดี
- มักชอบแสงแดดรำไรในครึ่งเช้า
- ข้อแนะนำคือ ไม่ควรปลูกในพื้นที่โล่งแจ้ง หรือลมแรง
ต้นตอบลู
ต้นตอบลู เหมาะสำหรับ
- ปลูกเป็นไม้ประดับบ้าน หรืออาคาร อาทิเช่น โต๊ะทำงาน ตามห้องนอน หรือวางตามมุมห้องต่าง ๆ
- ช่วยสร้างบรรยากาศด้วยการนำไปตกแต่ง และจัดวางบริเวณต่าง ๆ ตามมุมห้องสร้างความรู้สึกสดชื่น และสบายตา ปลูกเป็นไม้ประดับในกระถางวางไว้ภายในอาคาร
ใช้วางตกแต่งห้องทำงาน หรือห้องนอน รวมไปถึงมุมต่างๆ อาทิเช่น ริมหน้าต่าง ในห้องน้ำ และพื้นที่อื่น ๆ - สามารถเพาะขยายพันธุ์เพื่อนำไปจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเพจเฟสบุก ไอจี หรือแอพลิเคชั่นอื่น ๆ อาทิเช่น shopee lazada หรือ line เป็นต้น
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นตอบลู
จะมีลักษณะลำต้นอวบน้ำ อายุนานหลายปี จัดเป็นพืชในกลุ่มกระบองเพชรรูปทรงกระบอกให้สีเขียวอมฟ้าซึ่งมีสันพูประมาณ 5 – 6 พู มีการลดรูปใบเปลี่ยนเป็นหนามสีดำ และให้ดอกเดี่ยวบริเวณตุ่มเนินหนาม ดอกจะมีสีขาวประมาณ 14-18 กลีบ นอกจากนี้ยังมีผลเป็นรูปฝักกลม เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ภายในมีเมล็ดจำนวนมากสีน้ำตาล
วิธีการดูแล
- สามารถขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หรือปักชำลำต้น
- ชอบดินร่วนปนทราย และต้องการน้ำปานกลางถึงมากในการเจริญเติบโต
- ถ้าต้องการใส่ปุ๋ยให้ใส่ในช่วงเปลี่ยนดิน หรือใส่ปกติทุก 3 เดือนประมาณ 4-5 เม็ดซึ่งต้องเลือกใช้ปุ๋ยตามสูตรเฉพาะที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของแคคตัส
- ข้อควรระวัง หากวางไว้ในห้องแอร์ หรือมีความชื้นในดินมากไป รวมไปถึงการให้น้ำบ่อยไปจะทำให้เกิดราที่ราก และต้นไม้จะตายลงในที่สุด
ต้นตลับทอง
ต้นตลับทอง เหมาะสำหรับ
- ปลูกเป็นไม้ประดับบ้าน หรืออาคาร อาทิเช่น โต๊ะทำงาน ตามห้องนอน หรือวางตามมุมห้องต่าง ๆ
- ช่วยสร้างบรรยากาศด้วยการนำไปตกแต่ง และจัดวางบริเวณต่าง ๆ ตามมุมห้องสร้างความรู้สึกสดชื่น และสบายตา
- สามารถนำไปเพาะปลูกเพื่อสร้างเป็นรายได้อีกหนึ่งช่องทาง
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นตลับทอง
จะมีลักษณะลำต้นรูปทรงกระบอก ค่อนข้างอวบน้ำ มีอายุนานหลายปีเนื่องจากจัดอยู่ในพืชกลุ่มกระบองเพชรจึงมีสีเขียวเข้ม สำหรับใบจะมีการลดรูปเป็นหนามซึ่งเปราะหักง่าย ให้ดอกเดี่ยว สีเหลืองอ่อนขนาดใหญ่ 14 – 16 กลีบ
วิธีการดูแล
- สามารถขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
- เหมาะสำหรับการปลูกในดินร่วนปนทราย
- ต้องการน้ำน้อยแต่ก็ต้องการรดน้ำอย่างต่อเนื่องในช่วงที่โตเต็มวัยก็ควรทำการรดน้ำอย่างน้อย 7 – 10 วันต่อครั้ง
- เจริญเติบโตได้ดีเมื่อได้รับแสงแดดจัด
- ใส่ปุ๋ยเล็กน้อยในช่วงที่มีการเปลี่ยนดินในกระถางซึ่งปุ๋ยที่เหมาะสมคือปุ๋ยสำหรับใส่แคคตัสโดยเฉพาะ
ต้นเมโล ดิโก
ต้นเมโล ดิโก เหมาะสำหรับ
- ปลูกเพื่อความสวยงาม
- ปลูกไว้ปรับออกซิเจนบนโต๊ะทำงาน
- เอาไว้ประดับสวน
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นเมโล ดิโก
สำหรับต้นเมโล ดิโกมีลักษณะทรงกลมแบบแป้น และทรงกระบอก
มีทั้งสายพันธุ์ที่ขึ้นเป็นต้นเดี่ยว ๆ และขึ้นรวมกันเป็นกลุ่ม
เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อน ต้นเมโล
ดิโกเมื่อเติบโตเต็มที่จะอกดอกที่คล้ายกับปุยนุ่ม โดยจะเรียกว่า cephalium
ที่บริเวณยอดของต้นอ่อน ต้นเมโล ดิโกเป็นสกุลเดียวกับ Melocactus
พบมากบริเวณตอนใต้ของเกาะเวสอต์อินดีส ประเทศเม็กซิโก
เนื่องจากว่าเป็นต้นไม้ที่ขยายพันได้ง่าย ใช้เมล็ดในการขยายพันธุ์และเจริญเติบโตได้ดี
ดังนั้นจึงนิยมปลูกกันมาก โดยเมื่อต้นโตเต็มที่จะอยู่ที่ 10 – 1 5 เซนติเมตร
วิธีการดูแล
- ต้นเมโล ดิโก ไม่ต้องการน้ำมากนัก ฉะนั้นรดน้ำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
- ควรเปลี่ยนกระถางใหม่ทุก 6 เดือนป้องกันความชื้นมากเกินไป
- วางในที่ที่มีแสงแดดครึ่งวัน ชอบอยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก
- ใส่ปุ๋ย 6 เดือน 1 ครั้งเป็นพอ
ต้นม้าเวียนด่าง
ต้นม้าเวียนด่าง เหมาะสำหรับ
- ปลูกเพื่อความสวยงาม
- ปลูกไว้ปรับออกซิเจนบนโต๊ะทำงาน
- เอาไว้ประดับสวน
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นม้าเวียนด่าง
ลักษณะของลำต้นเป็นแบบพุ่ง มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 – 12 เซนติเมตร
ลักษณะของใบจะคล้ายรูปสามเหลี่ยมและออกเวียนรอบต้น มีความกว้างประมาณ 1
เซนติเมตร ความยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ตัวใบเรียวแหลมขอบใบห่องุ้มขึ้น
แต่ส่วนแผ่นใบจะแข็งเป็นพิเศษ
มีสีเขียวไปทางคล้ำและมีร่องตามแนวนอนลักษณะผิวแบบขรุขระ
ต้นม้าเวียนด่างนั้นจะออกดอกเป็นช่อแบบกระจะ โดยจะออกตามซอกปลาย ๆ ยอดใบ
ก้านช่อดอกเรียวเล็กและมีสีม่วงแดง ขาวอมเขียวอ่อน ตัวกลีบดอกเชื่อมกันคล้าย ๆ
หลอดเล็ก
วิธีการดูแล
- ต้นม้าเวียนด่างต้องการดินร่วนระบายน้ำ
และต้องการวัสดุการปลูกแบบเดียวกับแคคตัส - ต้องการน้ำปานกลาง รดน้ำวันเว้นวันกำลังดี
- วางในที่ที่มีแสงแดดครึ่งวัน ชอบอยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก
- ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ ปักชำกิ่ง
ต้นม้าลาย
ต้นม้าลาย เหมาะสำหรับ
- ปลูกเพื่อความสวยงาม
- ปลูกไว้ปรับออกซิเจนบนโต๊ะทำงาน
- เอาไว้ประดับสวน
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นม้าลาย
ต้นม้าลายหรือ Haworthia หลายคนคิดว่าอยู่ในวงศ์ของแคคตัส แต่จริง ๆ
แล้วจัดว่าเป็นพืชในวงศ์ Liliaceae หรือจำพวกเดียวกับว่านหางจระเข้ (Aloe)
แต่ลักษณะใบของต้นม้าลายนั้นเป็นไม้อวบน้ำ และภายในมีวุ้นใส ๆ
คล้ายกับว่านหางจระเข้ ลักษณะใบมีความเรียวแหลมและเรียงเป็นวงกลม
เรียงซ้อนกับแบบวงกลมคล้ายกับดอกบัว ส่วนรากอวบน้ำนั้นเป็นแหล่งสะสมอาหาร
เมื่อถึงเวลาจะมีการออกดอกเป็นช่องสูง บางทีเป็นช่อเดี่ยวแต่ออกกิ่งก้านสาขา
ซึ่งปัจจุบันหลายคนก็ยังสับสนกับวงศ์ของต้นม้าลายอยู่ เพราะกึ่ง ๆ เป็นแคคตัส
ไม้อวบน้ำด้วยเช่นกัน
วิธีการดูแล
- รดน้ำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
- ต้นม้าลายไม่ชอบแดดแรง ควรนำไว้ในที่ที่โดนแสงแดดรำไรตลอดทั้งวัน
- ใส่ปุ๋ยทุก ๆ 3 เดือนและคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของใบ
- ควรเปลี่ยนกระถางหากมีความชื้นมากเกินไป
ต้นมอนเตล่าแคระ
ต้นมอนเตล่าแคระ เหมาะสำหรับ
- สามารถช่วยฟอกอากาศได้
- แม้จะเป็นพันธุ์แคระ แต่ก็ช่วยดูดสารปนเปื้อนในอากาศได้เป็นอย่างดี
- ปลูกเพื่อประดับตกแต่งบ้านหรืออาคาร ให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นมอนเตล่าแคระ
ต้นมอนเตล่าแคระเป็นพืชที่เติบโตได้ดีในเขตร้อนและมีมากตามป่าดิบเขา เป็นไม้เลื้อยที่มีหลายสายพันธุ์ บางพันธุ์นั้นยาวถึง 4 เมตร แต่สำหรับมอนเตล่าแคระจะยาวไม่มาก และต้นไม่ใหญ่ ส่วนของลำต้นจะเป็นข้อสั้น ๆ ลักษณะใบจะคล้ายรูปหัวใจหรือรูปไข่ ลักษณะปลายใบเรียวแหลมเล็ก บนผิวของใบนั้นมีความมันวาบและมีขนาดใหญ่ เส้นกลางใบมี 5 แฉกเป็นแบบฉลุบนพื้นใบไม้
วิธีการดูแล
- มอนเตล่าแคระไม่ชอบแดดแรงและไม่ชอบความชื้น ดังนั้นควรเลือกกระถางให้เหมาะสม
- ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป และไม่ควรอยู่ในกระถางที่เล็กเพราะจะทำให้เติบโตช้า
- แนะนำให้ใช้กาบมะพร้าวผสมดิน เพื่อดูดซับความชื้น
- ควรลดน้ำวันละ 2 – 3 ครั้ง โดยขึ้นอยู่กับความชื้นของกระถาง
ต้นฟิโลใบลาย
ต้นฟิโลใบลาย เหมาะสำหรับ
- ช่วยฟอกอากาศได้
- ประดับเพื่อความสวยงาม
- ปลูกเพื่อประดับห้อง
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นฟิโลใบลาย
สำหรับฟิโลใบลายนั้น มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเขตร้อน
ซึ่งเหมาะกับภูมิอากาศในประเทศไทย เป็นพันธุ์ไม้ใบประดับไม่ออกดอก
ชอบเลื้อยพันกับไม้ใหญ่ แต่สามารถแยกปลูกได้
ลักษณะของใบมีรูปทรงที่แปลกแต่สวยงาม
ตัวใบมีสีเขียวสดและบางพันธุ์เป็นสีชมพูอมทองแดง
ใต้ใบอ่อนเป็นสีออกชมพูอ่อนไปทางแดง แต่เมื่อใบแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว
บางพันธุ์จะมีสีคล้ายดอกลั่นทม
นิยมปลูกเพื่อประดับห้องหรือประดับบ้าน
เนื่องจากเป็นต้นที่เล็ก จึงเหมาะที่จะประดับบนโต๊ะทำงานหรือโต๊ะอาหาร เป็นต้น
วิธีการดูแล
- ต้องการน้ำปานกลาง รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ
- ต้องการความชื้น จึงควรฉีดละอองน้ำให้บ่อย ๆ
- ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดให้เดือนละครั้ง
- ใช้ฟองน้ำหรือผ้าหมาด เช็ดทำความสะอาดใบเพื่อกำจัดฝุ่นละออง
ต้นแพรทอง
ต้นแพรทอง เหมาะสำหรับ
- ใช้ปลูกเพื่อประดับสถานที่
- สามารถปลูกเป็นไม้คลุมดินได้
- ปลูกเพื่อประดับขอบแปลงเพื่อสร้างความสวยงาม
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นแพรทอง
แพรทองจัดอยู่ในตระกูลพืชอวบน้ำขนาดเล็ก มีรูปทรงน่ารักและมีสีเขียวสด โดยมากมักปลูกเพื่อคลุมดิน หรือปลูกลงในกระถางเพื่อสร้างความสวยงาม สลับกับการนำไปใช้ตกแต่งร่วมกับต้นไม้ใหญ่ เพื่อสร้างพื้นที่สวนให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น ด้วยชื่อที่เป็นมงคลทำให้นิยมปลูกกันมา เพื่อเชื่อว่าจะนำโชคลาภมาให้ สามารปลูกในกระถางเล็ก ๆ เพื่อวางไว้บนโต๊ะทำงานได้ เนื่องจากลำต้นที่เล็ก และมีใบขยายกิ่งก้านสาขาที่เขียวสด ดูแล้วสบายตา
วิธีการดูแล
- นำไปตั้งไว้ในพื้นที่ที่แสงแดดส่องถึง แต่ไม่ควรไว้กลางแจ้งเพราะแดดแรงเกินไป
- เมื่อโตจนมีลำต้นสูงโผล่ดินแล้ว ให้รดน้ำช่วงเย็นวันละครั้ง
- สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแยกกอ
- เป็นพืชที่โตเร็ว แต่ต้องระวังการรดน้ำอย่าแรงเกินไป เพราะรากอาจหลุดได้