Author Archives: Gardencupid
ต้นพิโลมะละกอ
ต้นพิโลมะละกอ เหมาะสำหรับ
- ส่วนของใบมีความสวยงาม นิยมนำไปตกแต่งดอกไม้ในงานพิธี
- ปลูกเพื่อประดับตกแต่งสวนในบ้าน
- ช่วยดูดซับฝุ่นและฟอกอากาศไปในตัว ด้วยใบใหญ่และหนา จึงซับฝุ่นเล็ก ๆ ในอากาศได้ดี
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นพิโลมะละกอ
ลักษณะของต้นพิโลมะละกอคือ จะมีน้ำยางใส ๆ ในทุกส่วนบนลำต้น ส่วนใบเป็นประเภทใบเดี่ยวรูปไข่หรือวงรี ส่วนปลายมีความเรียวแหลม มีสีเขียวเข้ม ช่วงโคนจะเว้าเข้าเล็กน้อย รูปก้านเป็นทรงกระบอกแคบหุ้มด้วยยอดสีเขียวอมเหลือง ออกดอกเป็นช่อลดหลั่นกันเป็นกาบ จะสวยงามมากในช่วงเวลาออกดอกเหมาะกับการนำมาประดับ
วิธีการดูแล
- เนื่องจากเป็นพืชที่ปรับตัวได้ดี จึงทนต่อสภาพอากาศร้อน
- ต้องการแสงแดดในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่แรงหรืออ่อนเกินไป
- รดน้ำอาทิตย์ละ 3 ครั้งต่อวัน เพราะเป็นต้นไม้ที่ทนแล้ง
- ใส่ปุ๋ยปีละ 2 – 3ครั้งกำลังดี เพราะเป็นต้นไม้ที่ทนต่ออากาศและแมลง
ต้นพาโลเดีย
ต้นพาโลเดีย เหมาะสำหรับ
- ปลูกเพื่อความสวยงาม
- เป็นประโยชน์ต่อสายตาเมื่อตั้งไว้ในจุดที่มองเห็นขณะทำงาน อย่างเช่น โต๊ะทำงาน
- ตามความเชื่อ หากปลูกต้นพาโลเดีย (หนึ่งในตระกูลกระบองเพชร) แล้วออกดอกจะทำให้โชคดี
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นพาโลเดีย
ต้นพาโลเดียเป็นหนึ่งในตระกูลกระบองเพชร จัดว่าเป็นพืชยืนต้นที่มีขนาดเล็ก โดยลำต้นสูงประมาณ 1 – 12 ฟุตเท่านั้น ลำต้นมีสีเขียวและมีหนามอยู่รอบ ๆ ลักษณะต้นเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมและรูปทรงกระกลม ส่วนหนามที่ยื่นออกมานั้น จะทำหน้าที่แทนใบของลำต้น เป็นกระบองเพชรที่ออกดอก โดยมากจะเป็นสีเหลือง ขาวและแดง
วิธีการดูแล
- ต้องการแสงแดดอ่อนไปจนถึงแดดจัด ฉะนั้นควรตั้งไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง
- ให้น้ำในปริมาณน้อย เพราะเป็นพืชที่ทนต่อความแล้ง อย่างน้อยให้น้ำ 1 สัปดาห์ต่อครั้งกำลังดี
- ต้องการดินร่วนปนทรายและมีความชื้นปานกลาง เพื่อหล่อเลี้ยงราก
- ควรใส่ปุ๋ยคอกให้กับต้นพาโลเดีย อย่างน้อยปีละ 5 ครั้ง
ต้นไผ่ฟิลิปปินส์
ต้นไผ่ฟิลิปปินส์ เหมาะสำหรับ
- ส่วนก้านนิยมตกแต่งช่อดอกไม้ เพื่อเพิ่มความสวยงาม
- เป็นพืชที่อยู่ในแจกันได้นานถึงหนึ่งอาทิตย์ โดยที่ใบไม่เหี่ยวเฉ
- ปลูกเพื่อขายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นพีชยอดนิยม
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นไผ่ฟิลิปปินส์
สำหรับต้นไพ่ฟิลิปปินส์เป็นพืชสกุลเดียวกับต้นวาสนา โดดเด่นด้วยใบที่มีความสวยงาม ใบเดี่ยวเรียงซ้อนสลับกัน ส่วนใบนั้นจะแตกยอดออกจากลำต้น ครั้งละประมาณ 2 – 3 ใบ ลักษณะของใบนั้นจะเป็นรูทรงรีแหลมตรงส่วนปลายของใบ ส่วนช่วงโคนจะค่อนข้างกว้าง สีของใบเขียวอมเหลืองเล็กน้อย แซมด้วยสีขาวและครีมกระจายเป็นจุดเล็ก ๆ อยู่ทั่วใบ ลักษณะผิวมันวาว มีความกว้าง 2 – 6 เซนติเมตร และความใบยาวอยู่ที่ 5 – 20 เซนติเมตร ในส่วนของดอกจะมีสีขาวและมีกลิ่นหอม ออกดอกเป็นช่องแบบกระจายที่ปลายกิ่ง ตัวดอกจะยาวประมาณ 28 เซนติเมตร
วิธีการดูแล
- ไผ่ฟิลิปปินส์เติบโตดีในสภาพอากาศร้อนชื้น
- ในช่วงหน้าหนาวควรรดน้ำมากเป็นพิเศษ
- หมั่นรดน้ำเป็นประจำวันละ 1 ครั้ง
- ใส่ปุ๋ยเพื่อการเจริญเติบโตที่ดี
ต้นหัวใจแนบ
ต้นหัวใจแนบ เหมาะสำหรับ
- เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด
- ขยายพันธุ์ง่ายด้วยการปักชำ
- สามารถเพิ่มความชื้น
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นหัวใจแนบ
ลำต้น มีลักษณะกลมเรียวขนาดเล็กเท่าเส้นขนมจีน มีสีเขียวและมีรากออกมาตามข้อสำหรับเกาะยึดผนัง
ใบ มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับระนาบเดียวเป็นรูปหัวใจกว้างราว 3 – 5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร ปลายใบแหลมโค้งลงไปด้านเดียว โคนใบเว้าซ้อนเหลื่อม แผ่นใบหนาสีเขียวอมเทา มีลายสีเทาเงินแต้มทั่วใบ ก้านใบสั้น มักไม่พบช่อดอก
วิธีการดูแล
- เติบโตได้ดีในพื้นที่แสงแดดรำไร อีกทั้งมีความต้องการน้ำน้อยไม่ต้องคอยรดบ่อยๆ เพียงแต่ต้องการความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูง หากได้รับแสงแดดและมีความชื้นไม่เพียงพอ รากและลำต้นจะไม่เกาะแนบกับพื้นผิวผนัง การปลูกจึงต้องเอาใจใส่อยู่พอสมควร
ต้นหน้าวัว
ต้นหน้าวัว เหมาะสำหรับ
- มีสีสันสวยงาม สะดุดตา
- ก้านดอกยาวแข็งแรง
- มีอายุการใช้งานหลังตัดดอกนานราว 15 วัน
- เลี้ยงง่ายโตได้ในทุกสภาพอากาศ
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นหน้าวัว
ดอก มีลักษณะสมบูรณ์เพศ คือ มีเกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน ดอกเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดเรียงตัวกันแน่นบนช่อดอกที่เรียกว่า ปลี (Spadix) ซึ่งมีหลากสีเช่น สีส้ม สีแดง สีเขียว สีชมพู สีม่วง สีขาว
ลำต้นอาจเจริญเติบโตโดยมียอดเดียวหรือแตกกอได้ เมื่อยอดสูงจะพบรากบริเวณลำต้น
ระบบรากของหน้าวัวเป็นรากอากาศสามารถดูดน้ำ และความชื้นจากอากาศได้
วิธีการดูแล
- หน้าวัวแม้เป็นไม้เขตร้อน แต่ก็ไม่สามารถปลูกกลางแจ้งได้เพราะจะส่งผลให้ใบเกิดการด่างไหม้ ฉะนั้นการปลูกจึงจำเป็นต้องปลูกภายในโรงเรือนหรือที่มีแดดรำไรและคอยหมั่นรดน้ำอย่างน้อยวันละครั้งเพื่อให้ต้นฉ่ำน้ำและออกดอกได้นาน
ต้นลายท็อป
ต้นลายท็อป เหมาะสำหรับ
- ใช้น้ำน้อย เลี้ยงในห้องแอร์ได้
- สามารถขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ
- มีดอกทั้งสีขาวและสีเหลือง
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นลายท็อป
ใบมีลักษณะอวบน้ำและมีเพียง 2 ใบ โดยที่โคนใบเชื่อมต่อกันคล้ายทรงกระบอก หน้าตัดด้านบนเป็นรูปไตหรือรูปรี ส่วนลวดลายริ้วจะแตกต่างกันไป รวมๆแล้วดูคล้ายก้อนหินเล็ก ๆ
ดอกออกระหว่างซอกใบมีทั้งสีขาวและสีเหลือง บานตอนกลางวันและหุบในช่วงค่ำ จะออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน
วิธีการดูแล
- ชอบแดดรำไรและอากาศเย็นสามารถเลี้ยงในห้องแอร์ได้อย่างสบาย ทั้งยังเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุยที่ระบายน้ำและการปลูกระวังอย่าให้โดนแสงแดดจัดโดยตรงดังนั้นจึงไม่ควรปลูกกลางแจ้ง ไม่ควรรดน้ำให้โดนผิวใบเพราะจะทำให้ใบเน่าตายได้ ฉะนั้นเมื่อเริ่มแตกหน่อจึงควรงดให้น้ำสักระยะหนึ่ง
ต้นเรนโบว์
ต้นเรนโบว์ แคคตัส เหมาะสำหรับ
- สามารถขยายพันธุ์ทั้งจากเมล็ดและการกราฟต์หรือต่อหัว
- มีหลายสี หลายสายพันธุ์ ให้รูปทรงที่สะดุดตา
- สีของหนามเป็นสีเข้มเด่นชัด
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นเรนโบว์ แคคตัส
มีลักษณะลำต้นคล้ายทรงกระบอกโดยส่วนโคนต้นมักมีสีเขียว มีหนามอันแหลมคมรอบตัวและหนามตรงส่วนหัวจะมีสีสันเป็นสีชมพูสวยสดใส จากนั้นหนามสีชมพูจะค่อย ๆ จะเลื่อนลงมาตามแนวของลำต้นและมีสีซีดจางลงหรือกลายเป็นสีขาว
วิธีการดูแล
- มีความต้องการน้ำ ขณะเดียวกันก็ต้องการแสงแดดจัด จึงเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่กลางแจ้งและมีเวลารดน้ำแต่พอชุ่มแบบวันเว้นวัน ข้อควรระวังก็คือต้องรับแสงแดดอย่างเพียงพอ หากวางในที่ร่มหนามสีชมพูอมแดงจะค่อย ๆ ซีดกลายเป็นสีขาว จนอาจดูจืดชืดเลยทีเดียว
ต้นยิมโนด่าง
ต้นยิมโนด่าง เหมาะสำหรับ
- สามารถพัฒนาพันธุ์ลูกผสม ด้วยวิธีการกราฟต์หรือต่อหัว
- หนามมีการเกาะกลุ่มเป็นแนวสันชัดเจน จึงสามารถจับลำต้นได้ง่ายขึ้น
- ให้ความสวยงามทั้งต้นและดอก
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นยิมโนด่าง
ลำต้นมีลักษณะเป็นทรงกลมแป้น มีสันหนามแยกออกจากลำต้นอย่างเห็นได้ชัดและขึ้นเป็นกลุ่มตามแนวสันของลำต้น ส่วนขนาดลำต้นจะโตเต็มที่ประมาณ 4 – 5 ปี แต่หากนำส่วนหัวมากราฟต์กับลำต้นอื่นก็จะได้ต้นที่โตไวเพียงปีกว่าเท่านั้นก็จะออกดอก
ส่วนยิมโนกลุ่ม LB218 เป็นพันธุ์ใหม่ที่นำเข้าจากยูเครนและรัสเซีย ลำต้นมีลักษณะกลมแป้น เป็บกลีบ ๆ ตรงสันกลีบจะออกดอกเป็นสีขาวเล็ก ๆ เรียงกัน ดูสวยแปลกตามากทีเดียว
วิธีการดูแล
- ปลูกในดินที่ไม่อุ้มน้ำ ชอบแสงแดดรำไรถึงแดดจัด ทั้งยังทนแล้ง สามารถรดน้ำได้อาทิตย์ละครั้งหรือสิบวันครั้ง ใครที่ชอบความสวยจากลำต้นและมีเวลาน้อยจึงไม่ควรพลาด
ต้นยางอินเดีย
ต้นยางอินเดีย เหมาะสำหรับ
- ผลัดใบน้อยเมื่อปลูกในกระถาง
- สามารถฟอกอากาศ ดูดซับฝุ่นละออง รวมถึงสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สารฟอร์มาลดีไฮด์
- สารจากยางสามารถใช้เคลือบเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม้อัด ไม้แปรรูป น้ำยารักษาเนื้อไม้เพื่อป้องกันแมลง
- น้ำยางสามารถแปรรูปทำเป็นยางลบ
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นยางอินเดีย
เป็นไม้ยืนต้นที่โตไว สามารถสูงได้ถึง 25 ม. ลำต้นมีสีน้ำตาลเข้ม ทุกส่วนของลำต้นจะมีน้ำยางสีขาวอยู่ ส่วนใบมีสีเขียวขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ มีความมันเกลี้ยง หากนำไปปลูกลงดินจะมีการผลิใบใหม่ได้เกือบทุกวัน แต่ผลัดใบน้อยลงเมื่อปลูกในกระถาง
วิธีการดูแล
- เป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไรหรือแดดจัดได้ 3-6 ชม.ต่อวัน และจะเติบโตได้ดีในดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี สามารถรดน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ต้นแมมหนามตะขอ
ต้นแมมหนามตะขอ เหมาะสำหรับ
- โตเร็ว แตกหน่อเยอะ
- หน่อสามารถหลุดเองและเติบโตได้เองหรือเพาะชำได้
- เลี้ยงง่าย ทนแล้ง ไม่ชอบน้ำมาก
สนใจสินค้าสอบถามได้ที่
ลักษณะของต้นแมมหนามตะขอ
เป็นแคคตัสต้นเล็กๆ ขนาดประมาณ 3-5 ซม. ทรงต้นมีลักษณะค่อนข้างกลม มีพูเล็ก ๆ สีเขียวเข้มและเมื่อโตเต็มที่จะมีสีด่างหรือสีเหลืองอ่อน ๆ
หนามมีลักษณะเรียวยาวประมาณ 1 – 2 เซนติเมตร ปลายหนามมักมีลักษณะโค้งงอเล็กน้อยคล้ายตะขอเมื่อแรกขึ้นหนามอ่อนจะมีสีขาวเทาขนาดดูเบาบาง จากนั้นหนามจะมีขนาดหนาขึ้น ส่วนปลายหนามจะเปลี่ยน เป็นสีน้ำตาลแห้ง
วิธีการดูแล
- ใช้ดินปลูกผสมทรายที่แห้งไวและรดน้ำเพียง 1-2 สัปดาห์ครั้ง สามารถเลี้ยงในที่มีแดดจัดได้ทั้งวัน หากต้องการบำรุงต้นสามารถใส่ปุ๋ยละลายช้า เช่น ออสโมโค้ท เพียง 3 เดือนต่อครั้ง